เราคัดสรรเฉพาะเเหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพเเละเชื่อถือได้ ให้ทุกมื้อของน้องเเมวได้รับคุณประโยชน์ที่ถูกสุกขลักษณะและมีคุณภาพที่ดีที่สุด
ถ้าคุณกำลังมองหา อาหารที่ดีที่สุดสำหรับน้องเเมว Favorite Barf ได้รังสรรค์อาหาร ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ สะอาด เเละ มีประโยชน์ สำหรับเเมวทุกสายพันธ์ุ
ทุกมื้อพิเศษ Favorite Barf จัดส่งด้วยการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ที่ต่ำกว่า -10 องศา เพื่อรักษาคุณภาพ ของบาร์ฟ เมื่อส่งถึงมือคุณ
BARF ย่อมาจาก Biologically Appropriate Raw Food คือประเภทของอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น แมวหรือสุนัข ซึ่งเน้นการให้อาหารในรูปแบบวัตถุดิบดิบที่คล้ายกับสิ่งที่บรรพบุรุษของพวกเขากินในธรรมชาติ มักประกอบด้วยเนื้อดิบ เครื่องใน รวมถึงผักและผลไม้ด้วยในบางครั้ง แนวคิดของ BARF DIET เป็นการให้อาหารที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมทางชีวภาพ สำหรับสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง และ Favorite Barf เชื่อว่าการให้เเมวทาน BARF จะนำไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้น
แมวอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปสามารถทานบาร์ฟได้ เราแนะนำให้เริ่มจากสูตรไก่ก่อนซึ่งเป็นสูตรทานง่ายและมีกลิ่นที่ดึงดูดสำหรับแมว ก่อนให้บาร์ฟควรให้งดอาหารเม็ด 2-4 ชั่วโมง เพื่อให้มีการปรับท้องก่อน ระหว่างให้บาร์ฟไม่แนะนำให้ผสมกับอาหารเม็ด เนื่องจากการปล่อยกรดในการย่อยบาร์ฟและอาหารเม็ดแตกต่างกัน หากให้ผสมอาจทำให้แมวมีอาการไม่สบายท้องหรือปวดท้องได้ และเมื่อจะเปลี่ยนจากบาร์ฟมาให้อาหารเม็ดก็ควรให้แมวท้องว่าง 2-4 ชั่วโมง เพื่อปรับท้องก่อนเช่นกัน
ก่อนทานบาร์ฟแนะนำให้งดอาหารอื่นๆเพื่อให้ท้องว่าง 2-4 ชั่วโมง เพื่อปรับระบบย่อยของน้อง แมวให้เหมาะสมก่อน
นำกระปุกบาร์ฟออกจากช่องฟรีซ มาแช่ในตู้เย็นช่องปกติก่อน 1 คืนจะทำให้บาร์ฟนิ่มพอดี หรือเอากระปุกบาร์ฟแช่น้ำที่อุณหภูมิห้องจะช่วยให้ละลายได้เร็วขึ้น ไม่ควรนำไปเข้าเวฟหรือผ่านความร้อนเพื่อป้องการ การสูญเสียคุณภาพของบาร์ฟ
ใช้ช้อนตักตามปริมาณที่แนะนำให้ในแต่ละมื้อ ถ้าน้องแมวทานไม่อิ่มค่อยเพิ่มปริมาณให้ทีละน้อย หากแมวทานไม่หมดควรรีบนำกลับไปแช่ในตู้เย็นทันที ไม่ควรวางทิ้งไว้แบบอาหารเม็ดเนื่องจากบาร์ฟเป็นอาหารสดซึ่งจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้ง่าย ข้อแนะนำ ควรใช้ช้อนใหม่ในการตักบาร์ฟครั้งต่อไปเสมอเพื่อลดการปนเปื้อนและการเกิดเชื้อโรค
Favorite Barf อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูงที่มาจากเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ ปลา เเละจากแหล่งอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตและการบำรุงขนของแมว มีส่วนผสมของ Omega3,Omega6 ที่สามารถช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้เรายังมีการเลือกวัตถุดิบชั้นดีที่มี วิตามิน A ,วิตามิน E ,Zinc และ ไบโอติน ซึ่งเป็นวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของขนและทำให้ขนแข็งแรงอีกด้วย
Favirote Barf คัดสรรวัตถุดิบที่มีเเร่ธาตุและเเคลเซียมสูงเพื่อช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง มีการเสริมวิตามิน D เข้าไป เพื่อให้เเมวสามารถดูดซึมเเคลเซียมไปใช้เสริมสร้างร่างกายได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้บาร์ฟของเรายังมีเเหล่งฟอสฟอรัสในวัตถุดิบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูกอีกด้วย
Favirote Barf ประกอบไปด้วยเนื้อสดไม่ผ่านการปรุง เช่น เนื้อสัตว์ติดกระดูกหรือโครงไก่ ปลาดิบ ไข่ดิบ ผักสด ผลไม้ วิตามินแร่ธาตุ และอาหารเสริมที่จำเป็นสำหรับแมว หากทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไต เพราะไร้การเติมเเต่ง ไอโอดีน
Favorite Barf เลือกวัตุดิบที่มีเเคลเซียมสูงและวิตามิน D ที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกและฟันของแมวมีความแข็งแรง นอกจากนี้บาร์ฟยังมีกระดูกบดเป็นส่วนผสม เมื่อเวลาเเมวเคี้ยวอาหารจะสามารถช่วยขัดฟันเพื่อลดคราบพลัคที่เกาะอยู่บริเวณผิวของฟันได้ ซึ่งคราบพลัคเหล่านี้หากไม่ได้รับการทำความสะอาดที่ดีพอ จะก่อเกิดเป็นปัญหาหินปูนตามมาได้
ย่อยง่ายและดูดซึมได้ดี : อาหารดิบมีเอนไซม์ธรรมชาติที่ช่วยในการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารของแมวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลดการระคายเคืองหลอดอาหาร : อาหารบางชนิดอาจมีส่วนประกอบที่ทำให้แมวแพ้หรือระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ และในบางครั้งการที่แมวทานอาหารที่เเห้งและเเข็ง เมื่อกัดเข้าไปอาจเกิด ความเเหลม หรือ มุมของอาหาร ที่ระคายเคืองกับทางเดินอาหารได้เช่นกัน
อุจจาระน้อยลงและมีกลิ่นน้อยลง : การทานอาหารดิบจะทำให้แมวมีการย่อยและดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นกากเหลือจากการย่อยหรืออุจจาระจึงน้อยลงและมีกลิ่นน้อยลงด้วย
สุขภาพทางเดินอาหารที่ดีขึ้น : อาหารดิบมีไฟเบอร์ธรรมชาติที่ช่วยในการบำรุงและปรับสมดุลของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ ซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาท้องผูกและท้องเสียได้
สุขภาพทั่วไปดีขึ้น: Omega-6 ช่วยลดการอักเสบในร่างกายของแมว เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำหรับแมว โดยให้แคลอรี่ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการและกิจกรรมทางสรีรวิทยาต่างๆอีกด้วย
วิตามินซี (Vitamin C) : แม้ว่าแมวจะสามารถผลิตวิตามินซีได้เอง แต่การได้รับวิตามินซีเสริมจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดความเครียดในร่างกายของแมว
วิตามินอี (Vitamin E) : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์จากอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
วิตามินเอ (Vitamin A) : ช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังและเยื่อบุผิวหนังที่เป็นแนวป้องกันเชื้อโรค
สังกะสี (Zinc) : ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อ
ซีลีเนียม (Selenium) : ทำงานร่วมกับวิตามินอีในการป้องกันการทำลายเซลล์และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
โอเมก้า 3 และ 6 (Omega-3 and Omega-6 fatty acids) : มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพของผิวหนังและขน