น้องแมวอายุเท่าไหร่ถึงจะทานบาร์ฟได้ ?
อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปสามารถทานได้ค่ะ
ให้ลองทานบาร์ฟ 1-3 วันได้ไหม ?
การฝึกแมวให้ทานบาร์ฟนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละตัวค่ะ โดยทั่วไปแล้ว อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรืออาจเร็วกว่านั้นสำหรับแมวที่ชอบอาหารดิบอยู่แล้ว แต่สำหรับแมวที่ไม่เคยทานอาหารดิบมาก่อนอาจใช้เวลานานกว่านั้นค่ะ ดังนั้นแมวเด็กจะฝึกง่ายกว่าแมวอายุเยอะค่ะ
น้องแมวไม่ยอมทานบาร์ฟทำอย่างไร
ลองใช้ขนมแมวเลียหรือดรายฟิสโรยบนบาร์ฟเพื่อให้มีกลิ่นดึงดูดน้องแมวให้ชิมก่อน หรือจะผสมบาร์ฟกับอาหารเปียกในปริมาณน้อยๆก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณบาร์ฟมากขึ้นเรื่อยๆ จนน้องแมวคุ้นเคยและยอมทานบาร์ฟค่ะ
ช่วงการบำรุงน้องเเมวด้วย บาร์ฟ สามารถให้บาร์ฟผสมกับอาหารชนิดอื่นได้หรือไม่ ?
ช่วงที่ให้บาร์ฟสามารถให้อาหารชนิดอื่นได้ แต่อาหารเม็ดไม่แนะนำให้ผสมในมื้อเดียวกัน ช่วงที่ให้บาร์ฟควรงดอาหารเม็ดในมื้ออื่นๆด้วยจะดีที่สุด เนื่องจากน้ำย่อยที่ปล่อยออกมาขณะย่อยบาร์ฟและอาหารเม็ดมีปริมาณแตกต่างกัน จะสังเกตุว่าหากทานอาหารเม็ดน้องแมวจะกินบ่อยและอิ่มได้ไม่นาน แต่การทานบาร์ฟแมวจะไม่หิวบ่อย เพราะบาร์ฟจะอยู่ท้อง ใช้เวลาย่อยนานกว่าและดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่มากกว่าค่ะ การให้บาร์ฟสลับอาหารเม็ดบ่อยๆ จะมีโอกาสทำให้น้องแมวปวดท้องได้เนื่องจากปริมาณกรดที่หลั่งออกมาในการย่อยมีปริมาณไม่เท่ากันค่ะ
บาร์ฟเป็นอาหารดิบ จะทำให้เเมวติดพยาธิไหม
หากเตรียมบาร์ฟอย่างถูกสุขอนามัย บาร์ฟปลอดภัยสำหรับน้องแมวแน่นอนค่ะ Favorite barf ได้ใส่ใจความสะอาดในขั้นตอนการผลิตและมีการแช่บาร์ฟที่อุณหภูมิ -20 องศาซึ่งสามารถทำให้พยาธิเเละไข่พยาธิตายได้ โดยปกติแล้วแนะนำให้ควรถ่ายพยาธิน้องแมวทุกๆ 6 เดือนเพื่อลดความเสี่ยงของการติดพยาธิจากทางอื่นๆด้วยค่ะ
บาร์ฟเก็บได้นานไหม

BARF ที่ยังไม่ได้เปิด

• เก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้ ไม่เกิน 4 เดือน ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส
• เก็บไว้ในตู้เย็นไม่เกิน 3 สัปดาห์ ที่อุณหภูมิต่ำว่า 5 องศาเซลเซียส

BARF ที่เปิดแล้ว

• เก็บไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งได้ 3 วัน ที่อุณหภูมิ ที่ต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส
• วางไว้อุณหภูมิห้องไม่ควรเกิน 30 นาที ที่อุณหภูมิไม่สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส
สามารวางบาร์ฟทิ้งไว้ให้น้องแมวเหมือนอาหารเม็ดได้ไหม
สามารถวางไว้ที่อุณหภูมิห้องได้แต่ไม่ควรเกิน 30 นาทีนะคะ ที่อุณหภูมิไม่สูงเกิน 30 องศาเซลเซียส เเละ แนะนำให้ใช้ช้อนแบ่งตักตามปริมาณที่แนะนำให้ในแต่ละมื้อค่ะ หากน้องแมวทานไม่อิ่มค่อยเพิ่มปริมาณให้ทีละน้อย แต่หากทานไม่หมดควรรีบนำกลับไปแช่ในตู้เย็นทันที ไม่ควรวางทิ้งไว้แบบอาหารเม็ดเนื่องจากบาร์ฟเป็นอาหารสดเพราะจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้ง่ายค่ะ
หากบาร์ฟเสียจะเป็นยังไง
โดยปกติแล้วบาร์ฟจะมีกลิ่นคาวเนื้อเป็นธรรมดาค่ะ แต่กลิ่นจะไม่ออกเหม็นเน่า หากบาร์ฟเสียเนื้อจะออกสีเขียวและมีกลิ่นแรงเหมือนเนื้อเน่าเสียทั้วไปเลยค่ะ
แมวป่วยเป็นโรคประจำตัวทานบาร์ฟได้ไหม
แมวที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวสามารถทานอาหารบาร์ฟได้ค่ะ เช่น โรคไทรอยด์ โรคข้ออักเสบ โรคผิวหนัง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็ง

แต่กลุ่มโรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน เนื่องจากอาหารบาร์ฟอาจมีสารอาหารบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อแมวที่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้ได้ค่ะ

ทานบาร์ฟสูตรเดิมนานๆจะเป็นอะไรไหม
การให้อาหารบาร์ฟสูตรเดิมเป็นเวลานานๆ อาจทำให้แมวขาดสารอาหารบางชนิดได้ค่ะ เนื่องจากบาร์ฟแต่ละสูตรจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อให้น้องแมวได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและเพียงพอ จึงควรหมุนเวียนเปลี่ยนสูตรอาหารบาร์ฟเป็นประจำค่ะ
น้องทานบาร์ฟแล้วอ้วกผิดปกติไหม

น้องทานบาร์ฟแล้วอ้วกอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ให้สังเกตุว่าเป็นทุกครั้งหลังทานบาร์ฟหรือไม่ และเป็นบ่อยแค่ไหน ลองสังเกตุน้องแมวดังนี้

1.การทานบาร์ฟหรืออาหารประเภทใดก็ตาม แมวที่กินเร็วหรือมากเกินไปอาจเกิดอาเจียนได้ การให้อาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยขึ้นสามารถช่วยลดโอกาสที่จะอาเจียนได้

2.น้องแมวที่ทานบาร์ฟเสร็จแล้วเล่นทันทีมีโอกาสทำให้อาเจียนได้ เป็นเรื่องปกติ

3.การอาเจียนเรื้อรังอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพต่างๆ รวมถึงความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อ ปรสิต หรือความผิดปกติของอวัยวะ ทั้งนี้อาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย เซื่องซึม หรือเบื่ออาหาร จำเป็นต้องปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการประเมินอย่างละเอียด

ทำไมน้องแมวกินบาร์ฟแล้วกินน้ำน้อย
เนื่องจากบาร์ฟมีส่วนประกอบของน้ำค่อนข้างสูงอยู่แล้ว เมื่อน้องแมวกินบาร์ฟเข้าไป จึงอาจทำให้รู้สึกอิ่มน้ำและไม่ต้องการดื่มน้ำเพิ่มเติมมากนักค่ะ
ทำไม Favorite Barf ทำบาร์ฟแบบกระปุก ไม่ทำเป็นถุง ?
เนื่องจากบาร์ฟแบบกระปุก ง่ายต่อการตักแบ่งให้ในเเต่ละมื้อ สะดวกต่อการให้อาหารน้องแมวและปนเปื้อนได้ยากเพราะจะต้องใช้ช้อนใหม่ในการตักสำหรับมื้อต่อไปเสมอ นอกจากนี้กระปุกยังสามารถเก็บรักษาความเย็นได้ดี จึงรักษาคุณภาพสินค้าได้ดีกว่าเมื่อขนส่งถึงมือลูกค้า ซึ่งบาร์ฟแบบถุงจะละลายง่ายและมีโอกาสที่เสียง่ายกว่า เมื่อแบ่งให้แมวในแต่ละมื้ออาจจะไม่ค่อยสะอาดและสะดวกสำหรับผู้ให้ค่ะ